เมื่อสิบกว่าปีก่อน หลังจาก คุณโบบิ พัฒนามาตรฐานการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์หลายชั้นไร้รอยต่อ จนมีคุณภาพดีที่สุดในเมืองไทยได้แล้ว ความมุ่งมั่นของ คุณโบบิ ทุกลมหายใจเข้าออก เริ่มจดจ่ออยู่กับการทำแว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ให้ดีที่สุดในโลก
คุณโบบิ ได้พยายามโน้มน้าวกับร้านสว่างการแว่นทุกสาขาของครอบครัว ถึงแรงบันดาลใจในการทำแว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ให้ดีที่สุดในโลก แต่สิ่งที่ คุณโบบิ ได้รับกลับมา คือ แนวคิดที่จำกัดว่า ปัจจุบันร้านสว่างการแว่น ก็เป็นร้านแว่นตาชั้นนำของประเทศไทยอยู่แล้ว นั่น หมายถึง การหยุดพัฒนา เพราะคิดว่าตัวเองดีพอแล้ว อิ่มตัวแล้ว และหันไปสนใจกว้านซื้อที่ดินเพื่อเก็งกำไรหวังเงินก้อนโต ซึ่งขัดแย้งต่อความปรารถนาอันแรงกล้าในหัวใจของ คุณโบบิ เป็นอย่างมาก แต่ก็ไม่มีอะไรมาหยุดยั้งความซื่อสัตย์ต่อความใฝ่ฝันที่ คุณโบบิ มีอยู่เต็มหัวใจได้อีกต่อไปแล้ว
คุณโบบิ เล่าว่า : ผมมีพี่น้อง 8 คน ตั้งแต่เด็ก ผมเป็นคนที่ไม่เหมือนคนอื่น พี่น้อง แม่ แม้กระทั่งญาติ ทุกคนลงความเห็นเดียวกันหมดว่าผมเป็นตัวประหลาด วัน ๆ เอาแต่เพ้อฝันจะทำแว่นที่ดีที่สุดในโลก แม่พูดกับผมว่า ผมน่ะเกิดผิดบ้าน ทำไมไม่ไปเกิดเป็นลูกคนอื่น นี่เป็นเรื่องที่ผมเสียใจที่สุดในชีวิต ขณะที่ผมเป็นคนที่ทำงานหนักที่สุด สร้างความเจริญให้กับธุรกิจแว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ให้ครอบครัวสว่างการแว่น อย่างก้าวกระโดดมากที่สุด แต่สิ่งที่รู้สึกฝังอยู่ในใจ คือ เขาปฏิบัติกับผม ไม่เหมือนกับที่ปฏิบัติกับลูกคนอื่น ๆ ผมเคยถามเขาว่าทำไม พวกเขาตอบว่า เพราะผมคิดไม่เหมือนคนอื่น สิ่งหนึ่งที่ผมรับไม่ได้ก็ คือ เขาจะพูดเสมอ ถ้าอยากให้แม่ พี่น้อง ปฏิบัติกับผมเหมือนกับที่ปฏิบัติกับลูก ๆ พี่น้องคนอื่น ๆ ผมก็จะต้องคิดให้เหมือนพวกเขา ทำให้เหมือนพวกเขา ที่เน้นกำไร แต่ผมมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าในการทำแว่นสายตาให้ดีที่สุดในโลก โดยไม่ยึดติดกับกำไร ไม่ใช่คนทำงานเพื่อเงิน ไม่ได้เกลียดเงิน แล้วก็ไม่ได้ดูถูกค่าของเงิน เพียงแต่คิดว่าเงินเป็นแค่บางอย่างในชีวิต แต่ยังมีสิ่งที่มีค่ามากกว่าเงิน คือ การทำแว่นตาที่ดีที่สุดในโลก เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของลูกค้าทุกท่านให้ดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด นี่คือ ความเห็นที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง "
หลังจากพัฒนาธุรกิจของตระกูล ภายใต้ชื่อ สว่างการแว่น และเอสเคออพติก จนประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดเกินกว่าที่คุณพ่อคุณแม่ และ พี่น้องจะคิดฝันหลายร้อยเท่าแล้ว คุณโบบิ เลือกที่จะออกมาสร้างตัวเองจากศูนย์ จากวันแรกที่ก้าวเดินออกมาจากธุรกิจสว่างการแว่นของตระกูลด้วยตัวเปล่า จนถึงวันนี้ ปรมาจารย์โบบิ ไม่เคยรับความช่วยเหลือใด ๆ ไม่ว่าทางการเงินหรือการรับรองเครดิตใด ๆ จากคุณพ่อ คุณแม่ และพี่น้องของเขาเลย เป็นไปได้อย่างไร ที่ผู้ชายคนหนึ่งสร้างตัวเองจากเงินติดกระเป๋าไม่กี่บาท จนกลายเป็นศูนย์แว่นตาไอซอพติก ที่มีชื่อเสียงระดับโลก ด้วยทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ภายในเวลาเพียงไม่กี่ปี
คุณโบบิ เริ่มสร้างตัวด้วยการร่วมกับบริษัทนำศิลปไทย และ Rodenstock เปิดหลักสูตรสอนการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์หลายชั้นไร้รอยต่อแบบทวีคูณขั้นสูง ให้กับผู้ประกอบวิชาชีพด้านสายตาในประเทศไทย ภายใต้ชื่อหลักสูตร แว่นตาโปรเกรสซีฟทวีคูณ ด้วยสไตล์การสอนที่เปี่ยมด้วยพลังแห่งความเชื่อ รู้ลึก รู้จริง มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สอนตามพื้นฐาน และความต้องการที่แตกต่างกันของลูกศิษย์แต่ละคน มีเทคนิคการสอนที่สนุก สามารถกระตุ้นลูกศิษย์ให้กล้าถาม กล้าแสดงความคิดเห็น กล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าฝัน กล้าทำสิ่งใหม่ ๆ แน่นด้วยเนื้อหาทั้งทฤษฎีที่สอนเรื่องโครงสร้างเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟหลายชั้นไร้รอยต่อที่มีความสลับซับซ้อน ให้เข้าใจง่าย
ภาคปฏิบัติอย่างเข้มข้น สามารถนำไปใช้ได้ทันทีในวันรุ่งขึ้น ทำให้ชื่อเสียงของ คุณโบบิ และหลักสูตร แว่นตาโปรเกรสซีฟทวีคูณ เป็นที่เลื่องลือในหมู่ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสายตาในประเทศไทยว่า คุณโบบิ รู้ลึก รู้จริง เรื่องเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟหลายชั้นไร้รอยต่อระดับไฮเอนด์ จนมีผู้ประกอบวิชาชีพด้านสายตา ทั้งจักษุแพทย์ , Doctor of Optometry , พยาบาลวัดสายตา และช่างประกอบแว่น หลายพันคนต้องการเข้ารับการอบรมกับ คุณโบบิ จนต้องเปิดสอนปีละ 200 วัน ได้ค่าตอบแทนในการสอนวันละ 40,000 บาท ทำให้ คุณโบบิ มีรายได้จากการสอนปีละหลายล้านบาท จนต้องเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในอัตราสูงสุด คือ 37 %
ตลอดระยะเวลาที่ทำการสอน คุณโบบิ ได้ปลูกฝังปรัชญาให้ลูกศิษย์ทุกคน เคารพต่อคุณภาพการมองเห็นของมนุษย์ทุกคนว่าสูงค่า ภายใต้แนวคิดว่า Life is Beautiful and Sight is Life จนผู้ประกอบวิชาชีพด้านสายตาหลายพันคนจากทั่วประเทศที่ได้รับการถ่ายทอดสุดยอดวิชาการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์หลายชั้นไร้รอยต่อขั้นสูงกับ คุณโบบิ ต่างประสบความสำเร็จแบบก้าวกระโดดในการประกอบแว่นแว่นโปรเกรสซีฟหลายชั้นไร้รอยต่ออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
เป็นผลให้ผู้ใช้แว่นสายตาโปรเกรสซีฟหลายชั้นไร้รอยต่อในประเทศไทย ได้ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟหลายชั้นไร้รอยต่อ ที่ตรวจวัดประกอบด้วยมาตรฐานที่สูงขึ้นกว่าในอดีตหลายเท่า ทำให้ยอดขายเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟหลายชั้นไร้รอยต่อในประเทศไทย เติบโตในอัตราที่สูงที่สุดในโลก กลายเป็นกรณีศึกษาทางด้านการตลาดในหมู่ผู้ผลิตเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟหลายชั้นไร้รอยต่อชั้นนำทั่วโลก และเชิญให้ คุณโบบิ เปิดสอนหลักสูตร แว่นตาโปรเกรสซีฟทวีคูณ ในต่างประเทศ ตลอดหนึ่งปีที่ คุณโบบิ เดินทางไปสอนผู้ประกอบวิชาชีพด้านสายตาหลายพันคนในหลายประเทศ คุณโบบิ ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ให้กับวงการแว่นตาในทุกประเทศที่เขาไปสอน และได้รับการยอมรับในระดับสากลว่า คนไทย ตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์เทคโนโลยีล่าสุดได้ดีที่สุดในโลก นับเป็นอีกความภาคภูมิใจหนึ่งของคนไทยในระดับโลก
หลังจากประสบความสำเร็จในการสอนหลักสูตร แว่นโปรเกรสซีฟทวีคูณ ในระดับโลกแล้ว คุณโบบิ ระดมทุนจากลูกศิษย์ทั่วประเทศ ลงทุน 30 ล้านบาท เปิดศูนย์แว่นตาไอซอพติก ที่สามารถสร้างมาตรฐานใหม่ของการตรวจวัดสายตา ออกแบบ ประกอบแว่นซุปเปอร์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลระดับไฮเอนด์เทคโนโลยีล่าสุดได้ดีที่สุดในโลก ด้วยระบบดิจิตอลสามมิติเทคโนโลยีล่าสุด พรั่งพร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพ ทั้งจักษุแพทย์ , Doctor of Optometry และช่างประกอบแว่นฝีมือประณีต ด้วยความมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศให้ได้แว่นสายตาระดับมาสเตอร์พีซ ที่ให้คุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะในระดับสูงสุด ใส่สบาย สวยงาม สมบูรณ์ในทุกรายละเอียด รับประกันความพึงพอใจในการใช้งานจริง 120 วัน กล้ารับประกันคุณภาพแว่นสายตาทุกอันของไอซอพติกทุกอันว่า เป็นแว่นตาที่ให้คุณภาพการมองเห็นได้ดีที่สุดในโลก และรับประกันคุณภาพเลนส์แว่นตาซุปเปอร์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลระดับไฮเอนด์เทคโนโลยีล่าสุด
ในทุกกรณี 3 ปีเต็ม การรับประกันนี้ครอบคลุมถึงอุบัติเหตุในทุกกรณี นับเป็นการสร้างมาตรฐานสูงสุดของการรับประกันคุณภาพแว่นสายตา ซึ่งศูนย์แว่นตาไอซอพติกเป็นเพียงรายเดียวในโลกที่กล้ารับประกันคุณภาพแว่นสายตาทุกอันในระดับนี้ ลูกค้าจึงจ่ายเงินเพียงครั้งเดียวสำหรับเลนส์แว่นตาซุปเปอร์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลระดับไฮเอนด์เทคโนโลยีล่าสุดแต่ละคู่ตลอดระยะเวลา 3 ปีเต็ม นับจากวันที่รับแว่น
ด้วยคุณภาพของแว่นสายตาระดับไฮเอนด์ ที่ให้คุณภาพการมองเห็นเหนือกว่าแว่นสายตาที่เคยมีมาอย่างชัดเจน และบริการหลังการขายที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด ภายใต้ปรัชญาการทำแว่นสายตาของ ปรมาจารย์โบบิ ที่ว่า Life is Too Short to Limit Your Vision เขาจึงทุ่มเทฝึกฝนทีมงานไอซอพติกทุกคนให้สามารถตรวจวัดสายตาประกอบแว่นซุปเปอร์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลระดับไฮเอนด์เทคโนโลยีล่าสุด ได้อย่างถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ตรงตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนอย่างเฉพาะเจาะจง เพื่อให้ได้แว่นสายตาที่มีคุณสมบัติครบถ้วนทั้งสามประการ คือ See Better , Feel Better and Look Better ( มองเห็นภาพคมชัดกว่าเดิม , ใส่สบายกว่าเดิม , เสริมบุคลิกได้ดีกว่าเดิม )
ทุกวันนี้ คุณโบบิ ยังคงควบคุมมาตรฐานของแว่นสายตาไอซอพติกทุกอันอย่างเข้มงวดที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่า ผู้ใช้บริการทุกท่าน จะได้แว่นสายตาที่ใส่สบายที่สุด ใส่แล้วมีพลังสมองเพิ่มขึ้น ทำงานได้มากขึ้นแต่เหนื่อยน้อยลง ใส่แล้วสนุกกับการทำงานเหมือนวัยหนุ่มสาว มีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น จากความมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่เคยหยุดนิ่ง ทำให้ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ประสบความสำเร็จในระดับโลกอย่างรวดเร็ว เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางของผู้ใช้แว่นสายตาทั้งในเมืองไทย และต่างประเทศ จนมีลูกค้าจากทั่วโลกเดินทางมาใช้บริการเพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ เหมือนภาพนิมิตที่แจ่มชัดในหัวใจเปี่ยมฝันของเด็กน้อยโบบิ เมื่อ 43 ปีก่อน
คุณโบบิ เล่าว่า สไตล์การทำงานของผม เป็นแบบถึงลูกถึงคน ถึงพริกถึงขิง ไม่ประนีประนอมกับความคลาดเคลื่อนใด ๆ ทั้งสิ้น ชอบทำแว่นสายตาให้เต็มร้อย สมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด และทำสิ่งที่สมบูรณ์แบบในวันนี้ให้ดีขึ้นในวันรุ่งขึ้น พรุ่งนี้ผมก็จะทำให้ดีกว่าสิ่งที่สมบูรณ์แบบในวันนี้ ผมรักการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะการทำแว่นสายตาที่ใส่สบายที่สุดเท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบันจะเป็นไปได้ เราไม่ได้ขายแค่แว่นสายตาที่สุดในโลกเท่านั้น แต่เราขายคุณภาพการมองเห็นในระดับสูงสุดเท่าที่เทคโนโลยีในปัจจุบันจะเป็นไปได้ ผมจึงฝึกฝนทีมงานไอซอพติกทุกคนอย่างหนัก ให้บริการลูกค้าทุกท่านอย่างดีที่สุด ให้เกิดความประทับใจเริ่มตั้งแต่ก้าวแรกที่ลูกค้าเดินเข้ามา จะได้รับการต้อนรับด้วยคำทักทายอย่างอบอุ่น ให้รู้ว่า YOU ARE WELCOME จากใจ พนักงานศูนย์แว่นตาไอซอพติกทุกคน ถูกฝึกฝนมาให้บริการลูกค้าให้ดีที่สุด
แม้ว่าลูกค้าไม่คิดจะซื้อสินค้าก็ตาม ที่ศูนย์แว่นตาไอซอพติก จะไม่มีการต้อนรับลูกค้าด้วยคำพูดแบบร้านแว่นทั่วไปว่า สอบถามได้นะคะ , สนใจแว่นตาแบบไหนดีคะ แต่ในทางกลับกันที่ศูนย์แว่นตาไอซอพติก จะต้อนรับลูกค้าด้วยคำพูดว่า ' จะรับลาเต้ เอสเปรสโซ่ คาปูชิโน่ หรือชาหอมหมื่นลี้ ดีคะ ' ผมชอบให้ลูกค้ารู้สึกผ่อนคลาย สบาย ๆ ผมอยากให้ลูกค้าทุกท่านมีความรู้สึกอย่างแน่นอนว่า เราดีใจที่ท่านแวะมาเยี่ยม ขอบคุณที่ให้โอกาสเราได้เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการดูแลคุณภาพการมองเห็นของเขา อยากให้เขารู้ว่าแค่คุณเดินเข้ามาเราก็ดีใจแล้ว จากนั้น คือ เราจะรับใช้เขาได้อย่างไรบ้าง วัฒนธรรมของศูนย์แว่นตาไอซอพติก คือ ให้บริการลูกค้าสุดหัวใจ ซึ่งพนักงานที่ ศูนย์แว่นตาไอซอพติก ทุกคนต้องทำให้ได้
มาตรฐานของศูนย์แว่นตาไอซอพติก นั้นพนักงานจะบริการลูกค้าทุกท่าน ด้วยการทำความสะอาดแว่นด้วยเครื่องล้างแว่นคุณภาพสูง แล้วตรวจสอบความสมบูรณ์เพื่อซ่อมบำรุงทุกชิ้นส่วนของกรอบแว่น ตลอดจนปรับแต่งตำแหน่งของกรอบแว่นให้ใส่สบายที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยไม่มีการคิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด