ประวัติคุณโบบิ โดยย่อ :
คุณโบบิ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการศูนย์แว่นตาไอซอพติก
จากความใฝ่ฝันในวัยเยาว์ของทายาทร้านสว่างการแว่น จังหวัดตรัง คุณโบบิ ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นว่า ความฝันนั้นเป็นจริงได้ หลังจากทุ่มเทเวลาหลายสิบปีกับการศึกษา ค้นคว้า หาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านแว่นสายตาจากทั่วโลก แล้วนำมาต่อยอดพัฒนาจนสามารถสร้างมาตรฐานใหม่ของการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นซุปเปอร์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลเทคโนโลยีล่าสุดในระดับโลก ที่สามารถตรวจวัด ออกแบบ ผลิต ประกอบแว่นตาซุปเปอร์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลเทคโนโลยีล่าสุด อย่างเฉพาะเจาะจงสำหรับผู้ใช้แว่นสายตาแต่ละคน บนกรอบแว่นแต่ละอัน ทำให้ได้แว่นสายตาที่ให้คุณภาพการมองเห็นชัดทุกระยะในระดับสูงสุด ใส่สบาย รู้สึกเป็นธรรมชาติ เหมือนแว่นตาเป็นส่วนหนึ่งของอวัยวะในร่างกาย เสมือนได้กลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง
หลังจากสร้างสถิติจำหน่ายเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์อันดับหนึ่งของโลกติดต่อกันเป็นเวลาหลายปี ชื่อเสียงของ คุณโบบิ เริ่มเป็นที่รู้จักของวงการแว่นสายตาทั่วโลก จนได้รับเชิญให้สอนเรื่องการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ขั้นสูงสุด แบบทวีคูณ ที่มีชื่อเสียงทั่วโลกว่า สอนเข้าใจง่าย นำไปใช้ได้ทันที สร้างยอดขายแบบทวีคูณจากความพึงพอใจของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นได้จริง และได้รับการยอมรับจากลูกศิษย์หลายพันคนทั่วโลกว่า เส้นทางสู่ความฝันของเขาคนนี้ ได้สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตามาแล้วทั่วโลก
ย้อนภาพกลับไปเมื่อ 43 ปีก่อน ในร้านสว่างการแว่น ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของจังหวัดตรัง เด็กน้อยโบบิ ทายาทคนที่ 6 ของ นายสว่าง และ นางนภาพร เชาวนโกศล เจ้าของร้าน สว่างการแว่น จะออกมาคอยช่วยบริการลูกค้าจำนวนมากที่อยู่ในร้าน ที่ยืนรอคิวตรวจวัดสายตาประกอบแว่นจนแทบไม่มีทางเดิน
ขณะที่เด็กวัยเดียวกันเล่นซนสนุกสนานไปวัน ๆ เด็กน้อยโบบิ กลับสนใจการทำงานของเครื่องมือตรวจวัดสายตาประกอบแว่น ชอบแสวงหาความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ และมักจะชอบขลุกอยู่กับผู้ใหญ่ เป็นเด็กช่างเจรจาพาที ทำให้เขามีภูมิความรู้มากกว่าวัย สิ่งที่เขาเห็นติดตามาตั้งแต่เด็ก คือ การประกอบวิชาชีพทางด้านแว่นสายตาของคุณพ่อคุณแม่ กับช่างประกอบแว่นในร้าน และพนักงานกว่า 10 ชีวิตที่ต่างยุ่งวุ่นวายอยู่กับลูกค้า ตั้งแต่เช้ายันปิดร้าน และความฝังใจที่สุด คือ การที่เขาเกิดมาในช่วงเวลาที่คุณยายสูญเสียการมองเห็น และจากไปด้วยอาการอันสงบในเวลาต่อมา โดยไม่มีโอกาสเห็นหน้าของเขาเลยแม้แต่น้อย นั่นคือ ความทรงจำ ที่เด็กน้อยโบบิรับรู้ และผูกพันมาโดยตลอดตั้งแต่จำความได้ และเรื่องของคุณยายก็ได้ฝังลึกอยู่ในก้นบึ้งในหัวใจของเด็กน้อยโบบิเสมอมา
ผมมีคุณยายเป็นญาติผู้ใหญ่คนเดียว เพราะ คุณปู่ คุณย่า และคุณตา ท่านล่วงลับไปก่อนผมเกิด คุณยายท่านสูญเสียการมองเห็นก่อนผมเกิดไม่กี่เดือน ผมจึงเป็นหลานคนแรกที่ท่านมองไม่เห็น เรารู้สึกเลยว่าท่านไม่มีความสุข เหมือนกับท่านไม่อยากจะอยู่ ก็นึกอยู่ตลอดเวลาว่า ถ้าโตขึ้น อยากจะทำให้คนที่ตาบอดกลับมามองเห็นได้หรือคนที่กำลังจะมองไม่เห็น กลับมามองเห็นชัดขึ้นได้ จึงคิดตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ว่าอยากเป็นหมอตา เป็นจักษุแพทย์ นั่นคือความฝันแรกในวัยเด็กของผม
วันหนึ่ง เมื่อเด็กน้อยโบบิ อายุได้ 7 ขวบ ลูกค้าคนหนึ่งได้เปลี่ยนชีวิตของเด็กน้อยคนนี้ไปตลอดกาล ขณะที่คุณพ่อกำลังประกอบแว่นสายตาให้ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง ที่มีผู้ติดตามหลายคน โดยมีเด็กน้อยโบบิเกาะโต๊ะเฝ้าดูช่างประกอบแว่น ฝนเลนส์เข้ากรอบแว่นอยู่ใกล้ ๆ เครื่องแบบที่แลดูภูมิฐานของลูกค้าท่านนี้สร้างความสนใจให้กับเด็กน้อยโบบิเป็นอย่างมาก ขณะกำลังเพ่งดูเครื่องแบบของลูกค้าท่านนี้อยู่นั้น ก็ได้ยินลูกค้าท่านนี้คุยกับคุณพ่ออย่างสนิทสนมเป็นกันเองว่า
" คุณสว่างครับ หลายปีมานี้ ผมต้องย้ายไปรับราชการในหลายจังหวัด แต่ทำแว่นที่ไหนก็ใส่ไม่สบายเหมือนกับแว่นที่ทำกับคุณสว่าง ลองมาหลายร้านแล้ว ก็ยังใส่ไม่สบาย สุดท้ายก็ต้องเอาแว่นอันเก่าที่ตัดกับคุณสว่างมาใส่ ถึงจะสบาย แว่นที่คุณสว่างทำให้ผมทุกอัน มองได้คมชัด ใส่สบาย ใช้ดีมาก ผมทำที่ไหนก็ไม่ใกล้เคียงเลย อยู่ไกลแค่ไหนผมก็จะกลับมาตัดแว่นกับคุณสว่าง แต่ถ้าคุณสว่างไม่อยู่แล้ว ใครจะทำแว่นดี ๆ แบบนี้ให้ผมใส่ล่ะครับ
คุณพ่อหัวเราะเสียงดัง เด็กน้อยโบบิเพ่งมองด้วยดวงตาที่เบิกโพลง แสดงความสนใจเป็นอย่างมาก แล้วคุณพ่อสว่างก็ชี้นิ้วมาที่เด็กน้อยโบบิ แล้วตอบกลับไปว่า ถ้าผมไม่อยู่แล้ว ลูกชายผมคนนี้ จะทำแว่นที่ดีที่สุดให้ท่านใส่ ไม่ต้องห่วงครับ
คำพูดของผู้เป็นพ่อในวันนั้น เป็นเสมือนเชื้อเพลิงชั้นเยี่ยม ที่ได้ก่อชนวนความฝันของเด็กน้อยโบบิให้เกิดมีแรงบันดาลใจอยากจะทำแว่นตาให้ดีที่สุดในโลกในเวลาต่อมา คืนนั้นเด็กน้อยโบบินอนหลับแล้วฝันเห็นผู้คนแต่งตัวภูมิฐาน ทั้งฝรั่ง แขก จีน ไทย นั่งเครื่องบินมาจากทั่วทุกมุมโลกเพื่อมาทำแว่นตาที่ดีที่สุดในโลก กับเขา ความฝันในคืนนั้นเป็นภาพแจ่มชัดในหัวใจของเด็กน้อยตั้งแต่นั้นมา
เด็กน้อยโบบิ เติบโตขึ้นด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความฝันที่จะทำแว่นสายตาให้ดีที่สุดในโลก ด้วยความเชื่อว่า ถ้าทำได้ คนทั้งโลกจะเดินทางมาทำแว่นสายตากับเขา สิ่งนี้ได้กลายเป็นเป้าหมายสำคัญแน่นอนในชีวิต เด็กน้อยโบบิจึงสนใจ และหมกมุ่นอยู่แต่กับการทำแว่นสายตาในทุกรายละเอียดอย่างเอาจริงเอาจังนับตั้งแต่นั้นมา
ทุกวัน คุณโบบิ จะอธิษฐานขอสติปัญญา ความรอบรู้ จากพระเจ้า แล้วศึกษาเรียนรู้เคล็ดวิชาการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นทั้งหมดจากคุณพ่อคุณแม่ และทีมช่างประกอบแว่นในร้านแล้ว หนุ่มน้อยโบบินำความรู้ทั้งหมดมาต่อยอดพัฒนาอย่างใส่ใจในทุกรายละเอียด แล้วค้นคว้าหาความรู้จากผู้เชี่ยวชาญด้านสายตาจากทั่วโลก แล้วทดสอบการใช้งานจริงกับผู้ใช้แว่นสายตาหลายพันราย จนกลายเป็นการประกอบแว่นสายตาระบบสามมิติ ที่ปรับแต่งตำแหน่งของกรอบแว่นเข้าหาดวงตาและใบหน้าของผู้ใช้แต่ละท่าน ตามโครงสร้างเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์แต่ละรุ่น เพื่อให้ได้คุณภาพการมองเห็นที่ดีที่สุด แม้กระทั่งน๊อตแว่นตาตัวเล็ก ๆ ที่มักมีปัญหาน๊อตยึดกรอบแว่น น๊อตยึดเลนส์แว่นคลายตัว ก็แก้ไขให้น๊อตล๊อคพอดีได้หลายปี และสามารถคลายน๊อตออกได้ปกติด้วยไขควงเพื่อตั้งความฝืดของขาแว่นตามความชอบของผู้ใช้แต่ละท่าน หนุ่มน้อยโบบิมีความสุขกับการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์อย่างถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำ ประณีต พิถีถัน ตั้งอกตั้งใจ ดูแลผู้ใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ แต่ละท่านแม้ในรายละเอียดปลีกย่อยที่สุด จนเป็นที่ยอมรับของผู้ใช้แว่นตาแต่ละท่านว่า แพงแต่ดี
ก้าวกระโดดสู่ระดับโลกของหนุ่มน้อยโบบิ เริ่มต้นเมื่อเริ่มประกอบแว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ ด้วยระบบดิจิตอล 3 มิติ ที่เขาคิดค้นขึ้น ให้กับลูกค้าวัย 60 ท่านหนึ่งที่มีปัญหากับการใช้แว่นตาสองชั้น หลังจากใช้แว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ด้วยระบบดิจิตอล 3 มิติได้ไม่กี่วัน ลูกค้าท่านนี้นำผลไม้อย่างดีที่สุดจากสวนที่ปลูกเองมาฝาก แล้วบอกหนุ่มน้อยโบบิว่า แว่นอันใหม่นี้ใช้ดีจริง ๆ มองระยะไหนก็ชัดแจ๋วทันที ใส่สบาย เหมือนได้กลับไปเป็นหนุ่มอีกครั้ง ทานข้าว อ่านหนังสือ ขับรถ เดินขึ้นลงบันได จะไปไหน ทำอะไรก็สะดวกไปหมด ไม่ต้องเปลี่ยนแว่นไปมาเหมือนเมื่อก่อน
หนุ่มน้อยโบบิจึงคิดว่า ถ้าแว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ด้วยระบบดิจิตอล 3 มิติ ที่เขาคิดค้นขึ้น สามารถช่วยให้คนวัย 60 กลับมามองเห็นชัดทุกระยะในเสี้ยววินาทีได้เหมือนวัยหนุ่มสาว คนวัย 60 นับพันล้านคนทั่วโลกต้องอยากซื้อแว่นแบบนี้แน่ ๆ เขาฝันเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าที่เปี่ยมด้วยความสุขของคนวัย 60 หลายชาติหลายภาษาทั่วโลก ที่ได้ใส่แว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์ด้วยระบบดิจิตอล 3 มิติที่เขาทำให้ จึงทุ่มเทกำลัง ความคิด สติปัญญา ศึกษา ค้นคว้า ใช้เวลาหลายหมื่นชั่วโมงในการพัฒนาแว่นตาซุปเปอร์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลเทคโนโลยีล่าสุด ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตเลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟระดับไฮเอนด์จากเยอรมนี แล้วทดสอบความพึงพอใจในการใช้งานจริงกับลูกค้าหลายพันราย จนสามารถพัฒนาระบบตรวจวัดสายตาประกอบแว่นซุปเปอร์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลเทคโนโลยีล่าสุด ให้ใช้งานได้ดีที่สุดได้เป็นผลสำเร็จ จนสามารถสร้างสถิติใหม่ของการขายเลนส์แว่นตา ซุปเปอร์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลเทคโนโลยีล่าสุด ในระดับโลก หลายปีซ้อน นับเป็นอีกความภาคภูมิใจหนึ่งของคนไทยในระดับสากลว่า คนไทย ตรวจวัดสายตาประกอบแว่นซุปเปอร์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลเทคโนโลยีล่าสุด ได้ดีที่สุดในโลก
ไอซอพติก เป็นศูนย์ออกแบบเลนส์แว่นตาความคมชัดสูง ตรวจวัดสายตาประกอบแว่นซุปเปอร์โปรเกรสซีฟเฉพาะบุคคลเทคโนโลยีล่าสุด ด้วยระบบดิจิตอล 3 มิติ มีความละเอียดถูกต้อง เที่ยงตรง แม่นยำกว่ามาตรฐานทั่วไปถึง 25 เท่า ออกแบบ ผลิตเลนส์แว่นตา และกรอบแว่นแต่ละอัน อย่างเฉพาะเจาะจง ตามลักษณะการใช้สายตาที่แตกต่างกันของผู้ใช้แต่ละท่าน ใส่สบาย ปรับตัวง่าย มุมมองกว้าง หาระยะชัดได้อย่างรวดเร็ว รองรับความโค้งของกรอบแว่นได้มากกว่าปกติถึง 6 เท่า ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสมองได้อย่างก้าวกระโดด เหมือนได้กลับเป็นหนุ่มสาวอีกครั้ง
" ผมเชื่อว่า ผมได้รับพรจากพระเจ้า เพื่อเป็นพระพรกับคนอื่นต่อไปอย่างไม่รู้สิ้นสุด ถ้าสามารถทำให้ชีวิตของใครสักคนหนึ่งดีขึ้น ด้วยพระพรจากพระเจ้าผ่านชีวิตผม นั่นคือความดีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่มนุษย์สามารถทำต่อมนุษย์ด้วยกัน ขอส่งพลังแห่งความเชื่อนี้ไปถึงทุกท่านว่า พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์แต่ละคนอย่างมีศักยภาพจงกล้าเชื่อ กล้าอธิษฐาน กล้าคิด กล้าทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แล้วลงมือทำให้ดีขึ้นทุกวัน ตื่นขึ้นมาเช้าวันหนึ่ง จะพบว่าเรากลายเป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดในโลกไปแล้วครับ "